วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

บทความอังกฤษ

What my mother want me to do?
My mother wants me to happy whit learning because when I happy with it I will good at learning and I get good mark. My mother want me get grade more then 3.70 that I can get if I read many books always do my homework. My mother wants me to get a good job in the future and get a lot of money for her. When I get a lot of money I will buy many things that it makes my mother happy. I will buy car for her. I will buy a big house for her. I will have a good family. I think my mother want me to happy with my life.
What I want to do?
Now a day I am studying. Why am I going to study? I study for get a good occupation in the future. My dream occupation is a nurse. If I want to get this occupation now I must study hard.

วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ปิดเทอม

โรงเรียนของเราปิดเทอมตั้งแต่วันที่26กันยายน2551
-วันที่27ถึง29กันยายนเราได้ไปเข้าค่ายกับเพื่อนห้อง2,3สนุกมากมากพี่เลี้ยงก็แสนดี^_^การเข้าค่ายครั้งนี้เราได้ไปขึ้นเรือที่ปากอ่าวบางตะบูนด้วย ต้องทำโครงงานจากการที่ได้ไปดูป่าชายเลนและการเผาถ่านของลุงไสย
-วันที่1ถึง3ตุลาคมเราได้ไปเข้าค่ายที่วังรีรีสอร์ทสถานที่สวยมากมากสนุกดี แถมโครงงานกล่องดำของเรายังคว้ารางวัลชนะเลิศอีกต่างหาก
หลังจากนั้นถึงเปิดเทอมเราก็นอนอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน เปิดเทอมก็วันที่27ตุลาคม2551>v<

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

ไดอารี่ 18/8/2551

วันนี้มีการสอบ ตั้ง3 วิชา
เริ่มตั้งแต่ สอบเคมี มันเป็นการเลือกตัวเลือก และเป็นการเติมคำ ก็พอทำได้
พอมาคาบอังกฤษก็ สอบการเขียนเรื่อง เขียนไปได้ยังไม่ถึงหน้าเลย
ส่วน การสอบฟิสิกส์ ยากมากเลย
วันนี้ไปงานครูจุ๊กมาด้วย สท.เป็นเจ้าภาพ กลับบ้านมา ก็ประมาณ 3 ทุ่ม
อยากบอกว่า ครูจุ๊กจะอยู่ในใจเราทุกคนตลอดไป

เคล็ดลับการถนอมดวงตาเวลาใช้คอมพิวเตอร์

สำหรับคนที่วันๆ ต้องนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ คงต้องเกิดอาการปวดตา ตามัว ตาแห้ง สายตาล้า หรืออาการทางสายตาอื่นๆ กันบ้าง ปัจจุบันอาการทางสายตาที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์มีเพิ่มขึ้น จากสถิติพบว่า ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมากกว่า 50% มีอาการปวดตา ตามัว ตาแห้ง สายตาล้า และปวดศรีษะ รวมทั้งมีอาการอื่นๆ เช่น ปวดเหมื่อยคอและหลัง ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน และยังมีตัวแปรอีกหลายประการที่ทำร้ายสายตาของเรา เช่น ชนิดของจอคอมพิวเตอร์ แสงสะท้อนจากจอคอมพิวเตอร์ ความสว่างของห้อง ท่านั่ง ฯลฯ
เคล็ดลับเพื่อถนอมดวงตาเวลาใช้คอมพิวเตอร์

1. กระพริบตาให้ถี่ขึ้น อาการตาแห้ง เกิดจากการที่เรากระพริบตาน้อยลง เนื่องจากมีสมาธิขณะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ อัตราการกระพริบตาจะลดลงจาก 20 - 22 ครั้งต่อนาที เหลือเพียง 6 - 8 ครั้งต่อนาที ถ้าไม่อยากตาแห้ง ควรจะกระพริบตาให้ถี่ขึ้น หรืออาจใช้น้ำตาเทียมหยอดตา เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น




2. จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม
ให้บริเวณหน้าต่างอยู่ทางด้านข้างของจอคอมพิวเตอร์ เพื่อลดแสงตกสะท้อนบนหน้าจอ ควรจัดให้มีระยะห่างระหว่างจอภาพกับตัวเราประมาณ 50 - 70 ซ.ม. จัดระดับจอภาพจากจุดศูนย์กลางของจอคอมพิวเตอร์ ให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 4 - 9 นิ้ว ไม่ควรให้จอภาพอยู่สูงหรือต่ำเกินไป

3. ปรับความสว่างของห้อง ควรปิดไฟบางดวงที่ทำการรบกวนการทำงาน เพราะปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความสว่างที่มากเกินไป ถ้ามีแสงจ้าจากหน้าต่าง ควรใช้มูลี่เพื่อปรับแสงให้ผ่านได้เพียงบางส่วน และไม่เข้าตาโดยตรง หลีกเลี่ยงการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีผิวสะท้อน เช่น โต๊ะสีขาว ควรใช้วัสดุที่มีผิวด้าน ที่สะท้อนแสงไม่มากจะดีกว่า
4. เลือกใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ เวลาพิมพ์งาน ควรเลือกใช้ขนาดของตัวอักษรที่ใหญ่พอ และปรับความเข้มของตัวอักษรให้มากขึ้น ซึ่งขนาดตัวอักษรและความเข้มที่เหมาะสมจะสังเกตได้จากการที่เราอ่านตัวอักษรได้ในระยะห่างเป็น 3 เท่าของระยะที่นั่งทำงาน หรือเลือกใช้จอคอมพวิเตอร์ชนิด LCD (จอแบน) ซึ่งจะช่วยถนอนสายตาได้ดีกว่าจอแบบเก่า (CRT)
5. เลือกใช้แว่นที่เหมาะสมกับการใช้คอมพิวเตอร์ ควรเลือกใช้เลนส์สีเขียวอ่อน ที่ช่วยให้สบายตาภายใต้แสงจากหลอดไฟฟ้าฟลูออเรสเซนต์ และเพื่อลดแสงสะท้อนจากจอภาพ โดยเลือกแว่นตาที่มีกำลังขยายสำหรับระยะ 50 - 70 ซ.ม. (ระยะกลาง) ซึ่งค่ากำลังของเลนส์ดังกล่าวจะแตกต่างจากเลนส์อ่านหนังสือ หรือเลนส์มองใกล้ทั่วไป
6. พักสายตา ทุกๆ ชั่วโมง ควรเปลี่ยนอริยาบถ หรือลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายบ้าง เพื่อพักสายตาและป้องกันอาการปวดเมื่อยจากการใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน

10 เคล็ดลับ จำง่าย การอ่านหนังสือสอบ


1. ปิด ทีวี คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต mp3 มีสติอยู่กับหนังสือ
2. นั่งสมาธิสัก 5 นาที
3. อ่านหนึ่งรอบ แล้วสรุป โดยไม่เปิดหนังสือ
4. เช็คคำตอบ
5. อ่านอีกหนึ่งรอบ
6. สรุปใหม่ เปิดหนังสือได้เอาไว้อ่าน
7. ถ้าทำเป็น Mind Mapping จะอ่านง่ายขึ้น
8. มีเอกสารอะไรที่ครูแจก อย่าคิดว่าไม่สำคัญ
9. ท่องในส่วนที่ครูพูดย้ำบ่อยๆ อย่างน้อย 2 ครั้ง/คาบ
10. ก่อนวันสอบ ห้ามหักโหมอ่านหนังสือถึงเที่ยงคืน เพราะสมองจะไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น

วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ความสุข

ความสุขคือดินไม่ใช่ดาว

เมื่อเห็นคนอื่นมีรอยยิ้มกว้าง
เรารู้สึกอย่างไรกับรอยยิ้มนั้น
อิจฉาหรือยีนดี

ถ้ายินดี แสดงว่าเราเองก็มีความสุขอยู่เหมือนกัน
แต่ถ้าอิจฉา ใช่ไหมว่าสองเท้าของเรานั้นเริ่มเดินห่างออกจากถนนสายความสุข
เราจึงอยากจะยิ้มกว่างได้อย่างคนนั้นบ้าง
อยากจะมีสิ่งดีๆในชีวิตเหมือนอย่างคนโน้นบ้าง
รวมถึง”รักสวยงาม”แบบนั้นน่ะเราก็อยากจะมีบ้าง

ความสุขถ้าเรามองว่าคือดาว
เราก็จะห่างไกลจากมันอยู่เสมอ
เราอยากจะเป็นโน่นเป็นนี่ มีโน่นมีนี่ที่ล้วนอยู่ห่างไกลจากตัวเรา
อยากจะเอื้อมมือคว้าดาวบนฟากฟ้า
ทั้งที่รุ้ดีว่าไม่มีสิ่งใดมาต่อแขนให้ยืดยาวได้ถึงเพียงนั้น
รักที่สวยงามก็เช่นกัน ถ้าเรามองว่าคือขอบฟ้า
เราก็จะไม่มีทางได้สัมผัสมันจริงๆ
เพราะไม่ว่าจะเป็นตรงพื้นที่ไหนในโลก ขอบฟ้าก็ไม่เคยมีอยู่จริง

ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของใคร
ก็ไม่ได้มีเพียงด้านเดียว
หลายครั้งที่เราอยากจะเป็นอย่างเขา ก็เพราะเรามองแค่ด้านสว่างเท่านั้น
แทนที่จะอยากเป็น อยากมีอย่างใคร
น่าจะดีกว่าไหม ถ้าเราเอาเวลามาเป็นในแบบตัวเองให้ดี พอใจในสิ่งที่มี
ดูแลความรักที่มีอยู่แต่เดิมแล้ว
ด้วยการหมั่นหาโอกาสเข้าใจ ไม่ใช่หมั่นหาโอกาสผิดใจ
รักที่สวยงาม ไม่ต้องงดงามอย่างส้นขอบฟ้าก็ได้
รักที่สวยงาม อาจเป็นความสัมพันธ์แบบคนธรรมดาแต่มีใจไว้แลกกัน

ความสุขนั้น ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้
ความสุขไม่ใช่ดาวแต่คือดิน
แค่เรารู้จักกอบมันขึ้นมา และเห็นคุณค่าของสี่งที่มีอยู่ในมือ

ที่มา:I like No.138